My 2021's skincare routine
สวัสดีค่ะ กลับมาพบกับน้องมุก กันอีกแล้วนะคะ
วันนี้น้องมุกอยากจะมาแชร์ skincare routine ที่ทำมาได้ซัก 2-3 เดือนแล้ว
มันอาจจะดูแปลกๆหรือไม่ make sense สำหรับใครบางคน หรือหลายๆคน
คนที่สนใจใช้สกินแคร์ดูแลผิวหน้า ก็น่าจะคุ้นเคยกับการใช้ไปอย่างน้อย 28 วัน ให้ได้ผลัดเซลล์ผิว เผยผิวใหม่ บลาๆๆๆ อะไรประมาณนี้ พูดไม่ค่อยถูก
จริงๆก็ทำตามนะคะ แต่มันก็จะรู้สึกมานานแล้วว่าทำไมเราใช้ตัวเดียวกัน มันถึงดีเป็นช่วงๆ แบบหน้าแหกใช้ตัวนี้แล้วดีขึ้นเร็วมาก พอหน้าแหกใหม่ ทำไมมันไม่ดีเหมือนก่อนหน้านี้ที่เคยใช้ หรือทำไมพอเราใช้ไปครบ 28 วันแล้ว มันไม่ดีขึ้นแล้วอ่ะ มันก็ควรจะดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เหรอ ทำไมบางทีมันก็แย่
โอเคค่ะ เกริ่นนำแค่นี้พอ เรา follow dermatologist ใน IG หลายคน แต่ก็มีอันที่จุดประกายเรา
https://www.instagram.com/p/CHaEbXADzOg/?utm_source=ig_web_copy_link
อันนี้คือโพสต์แรกที่เราเห็นเลย กับเรื่องอะไรประมาณนี้ เราก็เห็นด้วยเลย เพราะก่อนเมนส์มา หน้าเราจะมันมาก มันจนเหม็นน้ำมันตรงจมูก
ก็คือตอนนี้ เราลองใช้สกินแคร์ตามช่วง menstrual cycle ของตัวเอง คือเราก็ไม่ได้ถ่ายรูปหน้าตัวเองแต่ละช่วง เอาไว้รีวิวอะไรขนาดนั้น แค่อยากจะมาเขียนแชร์เฉยๆ เผื่อมีใครสนใจคล้ายๆเรา แล้วคือสำหรับเรามันเวิร์ค เราชอบที่เราดีลกับสภาพผิวหน้าตัวเองได้ง่ายขึ้น น่าจะเคยได้ยินที่มีคนพูดว่า จะใช้อะไรก็ดูสภาพหน้าตัวเองตอนนั้น ว่าตอนนี้ผิวหน้าเราต้องการอะไร อันนั้นก็ดูจะยากและละเอียดเกินไปสำหรับคนอย่างเรา เราชอบอะไรที่มันมี pattern มากกว่า จัดการง่ายดี
ถ้าจะอธิบายง่ายๆ ก็เริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่เมนส์มา มันก็จะเป็นช่วง first stage ที่เค้าพูดถึง ว่าผิวหน้าเราช่วงนั้น sensitive แล้วก็แห้ง เราก็ควรจะใช้ พวก hyarulonic acid หรือพวก skin barrier repair เราชอบช่วงนี้นะ จากที่หน้ามันๆมาก่อนหน้านี้ ทาอะไรก็ไม่ค่อยไป กลายเป็นว่า phase นี้เราสามารถประโคม moistuizer ไปได้เต็มที่เลย จากที่รูขุมขนกว้างอยู่ ก็ตีบภายในข้ามคืน
อันที่อยู่ในกระปุกแล้วไม่มีฉลากนั่นคือ Day bright ของยูเซอริน เราชอบเอาไว้ใช้ข่วงนี้เพราะมันใช้แล้วหน้าค่อนข้างมัน พอเอามาใช้ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยรู้สึกมันอะไรเท่าไหร่ ที่พิเศษก็คือตัวนี้ลดรอยแดงได้ดีมากๆ หน้าใส ฟู ส่วนอีกอันนึง เราดูส่วนผสมใน website แล้วอยากได้ แต่มันดันไม่ใช่ส่วนผสมเดียวกับที่มีมาข้างกล่อง หัวเสียเลยตอนได้มา แต่ด้วยความที่มันมี humectant หลายตัว ก็เลยเอามาใช้ช่วงนี้ก็ได้ ไม่เสียของ
มาต่อ second stage ก็คือช่วงที่เมนส์หมดแล้วกำลังเริ่มเข้าช่วงไข่ตก เอาจริงๆ ช่วงนี้ ใช้อะไรก็ดี ใช้ของง่อยๆหน้าก็ดี ดีแบบไม่ต้องทำอะไรเลย ตอนที่เราใช้ AHA กับ retinol คู่กันตอนช่วงนี้คือหน้าตึงแทบจะแตกเลย ชอบมากกกกกกกกก
แล้วที่เค้าบอกว่าควรจะใช้ vitamin c กับ AHA 2 ตัวนี้เลย ที่เราใช้ วิตซีอันนี้เราได้มาจากตอนที่ร่วมกิจกรรมของ cosmenet เลยเอามาใช้ช่วงนี้ จริงๆเราชอบวิซีที่เป็น ascorbyl glucoside สุด เพราะใช้แล้วหน้าขาว รอยแดงหาย ส่วน ascorbic acid นี่ ค่อนไปทางไม่ชอบเลย ตอนมันถูก oxidixed แล้วมีกลิ่นอยู่บนหน้าเรา แล้วมันก็ชอบติดอยู่ตรงสิวเสี้ยนที่จมูกเราเป็นเม็ดดำๆ เล็กๆต้องสครับ ต้องเช็ดโทนเนอร์บ่อยๆ คนเราก็ควรทา วิตซีเป็นประจำทุกวันตอนเช้า อย่างน้อยก็เพื่อเป็น antioxidant จริงๆ เซรั่มที่เราใช้ในช่วงอื่นๆ มันก็มี vit C นะ แค่ไม่ได้เป็น active ingredient ส่วนของ Chanel อันนี้เราเอาไว้ใช้ตอนกลางคืน อันนี้ใช้แล้วหน้าโกลว์จริง รอยดำจางเร็วด้วย วิธีใช้ที่ BA แนะนำมาคือใช้ 1 เดือนเว้น 1 เดือน แล้วใช้ 1 อาทิตย์ เว้น 1 เดือน เราเลยเอามาใช้ช่วงนี้แทน จะได้ผลลัพธ์จึ้งๆไปเลย จริงๆ บางคนเค้าก็จะแนะนำนะ ว่าถ้าจะลองใช้สกินแคร์ใหม่ๆ ให้เอามาใช้ช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงที่ผิวดีสุด
ส่วนถ้าไปอ่านของบางคน เค้าก็จะมี stage 3 แล้วก็ 4 แต่คนนี้จะพูดรวมๆกันไปเลย ก็คือก่อนเมนส์มา หน้าจะมัน จริงๆถึงไม่มีปฏิทินเอาไว้ดู ก็จะรู้เลยว่า มันเลยช่วงพีคของหน้าไปแล้ว แต่หน้าจะยังไม่ถึงกับเริ่มมันเยิ้ม ทันทีทันใด มันก็ยังดีอยู่ แต่อาจจะไม่ดีเท่าช่วงก่อนหน้านี้ ถ้าเป็นบางแหล่ง ก็จะแนะนำให้ใช้ peptide และ retinol ซึ่ง ณ จุดๆนี้เราก็มีค่ะ แต่ทาได้ไม่กี่วัน ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ที่ลดความมันแล้ว ยังทาไม่สนุกเลย 55555 แต่จริงๆ จะเอาไปใช้ stage 2 ก็ได้ แต่เรามีเซรั่มตัวอื่นด้วยไง ต้องแบ่งๆช่วงใช้ ใช้พร้อมกันแล้วขี้เกียจทา ไม่สนุกด้วย ใช้แบบเดิมๆทุกวัน
ฝั่งขวาก็คือที่เราเอามาเป็น peptide serum เพราะมันมี matrixyl3000 ใช้ตอนเช้าหรือกลางคืนก็ได้ ตัวนี้ไม่มีน้ำเลย ตัว peptide อยู่หลัง glycerin แล้วก็อยู่ก่อนหน้า 2% niacindmide อันนี้ซื้อมาเพราะ มันเป็นความรู้สึกว่า ควรจะมี peptide ติดบ้านเอาไว้ อุ่นใจ ส่วนอีกอันนึงเป็น retinol oil 2 ขวดนี้เราซื้อมาจาก iherb ทั้งคู่เลย อันนี้มี retinol 0.3% ใช้ช่วงก่อนไข่ตกนะ หน้านี่ตึง แต่ถ้าใช้หลังจากนั้นแล้วก็อาจจะไม่ค่อยเท่าไหร่ บางทีเราก็เอา 2 อันนี้ไปใช้พร้อมๆกับ vit c กับ aha ด้วย เอาไปผสมในครีมไรงี๊
และสุดท้ายก็คือช่วงก่อนเมนส์มา และนี่ก็คือ 2-3 ตัวที่เราใช้ เจลล้างหน้านี่หยุดความมันชะงักดีมากเลย เราจะเอามาใช้ช่วงที่เรารู้สึกได้กลิ่นความมันบนหน้าตรงจมูก ถ้าปกติจะใช้ตัว pH 5 ขอ
ยูเซอรินอีกเหมือนกัน แล้วพอช่วงหน้ามัน รูขุมขนก็จะกว้าง เซรั่มตัวกลางก็จะทำหน้าที่แบบว่า อะไรกัน ช่วงนี้ชั้นไม่ได้หน้ามัน รูขุมขนกว้างซักหน่อย ส่วนตัวสุดท้าย ด้วยความที่เป็น oil เราก็จะเอาไปใช้ตอนกลางคืน บางวันที่เราใช้โทนเนอร์ aha เช็ดหน้าไปแล้ว ไม่อยากให้มันซ้ำซ้อน เซรั่มตัวนี้เค้าไม่ได้เคลมว่าด้วยลดรูขุมขนนะ แต่เราลองซื้อมาใช้เพราะมันมี mastic gum ที่จะถูกใช้เคลมเรื่องลดรูขุมขน ในเซรั่มแพงๆมากหลายๆตัว ซึ่งมันก็ได้ผลจริงแหละ
แล้วส่วนเซ็ทนี้ ก็จะเป็นที่เราใช้ประจำช่วงนี้
first serum ของยูเซอรินตัวนี้ คือใช้ดีมาก ดีกว่า first serum ดังๆบางตัวเลย ส่วนตัวเราตอนนี้อ่ะ จะชอบใช้อะไรให้มันเห็นผลเร็วๆ อารมณ์แบบใช้แค่รักษาอาการ เพราะเราไม่ได้ใช้อะไรติดกันเป็นเวลาๆนานๆแล้ว จะใช้อะไรที่แบบว่า เออ มันรักษาได้ตรงจุดจริงๆนะ ส่วนเซรั่มตัวที่ 2 เราเคยใช้มาก่อนหน้านี้แล้วเดือนครึ่ง แต่เราก็เฉยๆอ่ะ แต่คืออ่านรีวิวมามันก็ดีกับผิวหน้ามากๆแหละ แต่หยุดใช้ไปหน้าก็ไม่ได้แย่ลง แต่ตอนนี้ที่เอามาใช้ใหม่เพราะจะลองใช้ 1% bakuchiol ติดต่อกัน 3 เดือน ออยล์ขวดที่ 4 เราเอาไว้ใช้ตอนกลางคืนก็มี 1% bakuchiol เหมือนกัน จะเรียกว่าเซรั่มหลักเป็น 1% bakuchiol ก็ได้ เพราะด้วยความที่เราใช้แล้วไม่ได้ว๊าว เลยจะลองใช้ยาวๆไปเลย อาจจะเรียกว่าตั้งใจให้ให้หมดๆไปก็ได้ ส่วน liquid gold นี่ก็เป็นพระเอกช่วงไข่ตกเลยตัวนี้ ใช้คู่กับ retinol แล้วยิ่งมี first serum ด้วยตอนนี้ คือหน้าตึงมาก แต่ส่วนตัวเราคิดว่า มันอาจจะตึงแน่นเพราะ hydrolyzed silk ก็ได้
สำหรับเรา เราก็จะใช้เซรั่ม รวม pre serum แล้วไม่เกิน 3 ตัว เพราะเผื่อที่ไว้ให้นำ้ตบกับครีมด้วย เราสังเกตว่ายิ่งใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เยอะ ก็จะยิ่งเห็นผลชัด เดาว่ามันอาจจะเกี่ยวกับพวก metabolism อะไรด้วย อันนั้นจะเอามาใช้ อันนี้จะต้องกำจัดทิ้ง น่าจะเหนื่อยอ่ะ
ส่วนนี่เป็นตัวอย่างปฏิทิน menstrual cycle เราใช้แอพนี้มาตั้งแต่ปี 2556 แล้วมั๊ง เอาไว้ดูวันเมนส์มา ไว้เตรียมพกผ้าอนามัย ตอนนี้เอาไว้ดูใช้สกินแคร์ด้วย เวิร์คเลย อย่างวันนี้้ที่เราเขียนคือวันที่ 6 เมนส์มาวันแรก วันที่ 6-11 ก็จะนับเป็น first stage วันที่ 12-19 ก็จะเป็น second stage ส่วน 20-31 ก็จะเป็น stage 3-4 ช่วงนี้ของเรา มันไม่ได้แบ่งชัดเจน ขนาดนั้น เราจะรู้สึกถึงว่ามันเข้า stage ที่ 4 ก็คือช่วงที่หน้าเราจะเริ่มมันมากๆ
แล้วก็อันนี้สุดท้าย อายครีม ขอรีวิวหน่อย ได้เทสเตอร์มา 3 mL ตั้งแต่กลางเดือนเมษา ใช้เฉพาะตอนเช้า ถึงตอนนี้ยังไม่หมดเลย เพราะตอนกลางคืนเอามีตัวอื่นใช้อยู่ ใช้คู่กันแล้วเห็นผลดีกว่า แต่ก็คือชอบมาก ปกติเราใช้อายครีมที่เป็น retinol ตอนกลางคืนก็ว่าดีแล้ว เอามาใช้ตอนเข้าก็คือดีขึ้นไปอีก ส่วนประปุก 15 mL เราว่าเราคงใช้ได้เป็นปี แต่ใต้ขวดเค้าเขียนว่า 6 เดือน จะให้รีบใช้หมดไปไหนวะ แพงก็แพง 55555555
นี่แหละค่ะ ก็ประมาณนี้ มันอาจจะดูขัดๆกับสิ่งที่ควรจะเป็นไปซักหน่อย แต่แบบนี้ มันเวิร์คกับเรามากๆเลย บางอย่างที่เริ่มใช้ช่วงก่อนไข่ตกแล้วแบบหูยดีมาก แต่ทำไมใช้ไปเรื่อยๆ มันเฉยๆวะ มันต้องยิ่งใช้ยิ่งดีขึ้นไม่ใช่เหรอ เพราะสมมติฐานนี้แหละ เราเลยเปลียนมาใช้แบบนี้ เพราะกฏ 28 วัน มันทำให้เรามีข้อโต้แย้ง เราเลยเลือกที่จะเชื่อความรู้สึกตัวเองมากกว่า
บ๊ายบาย ไปแล้วค่ะ ขอให้ทุกคนมีสภาพผิวหน้าที่ดีนะคะ สวัสดีค่ะ
Comments
Post a Comment