Orange Spice Espresso Tonic

"Orange Spice Espresso Tonic"


เรามาทำเครื่องดื่มสำหรับเทศกาลคริสต์มาสกันดีกว่าค่ะ เปล่าาาาาาาาาาา ไม่ใช่ เมื่อวานมีเพื่อนส่งรูป orange espresso tonic มาให้ดู ก็เลยแบบ ลองทำดูดีกว่า ก็หาดูใน youtube เจออันที่ใส่เป็นน้ำส้มบ้าง บางอันก็ใส่เป็น syrup กลิ่นส้ม ก็มานั่งคิดว่าถ้าเป็นน้ำส้มไปเลย มันจะอร่อยจริงป่าววะ มันจะเจือจางไปมั๊ย มันจะหวานไปรึเปล่า แล้วถ้าเป็นน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำส้ม มันก็จะได้หอมน้ำส้มสด ใช้ไม่ต้องเยอะด้วย เพราะต้องใส่โซดาอีก เออ ขี้เกียจพิมพ์เกริ่นแล้วอ่ะ เข้าเรื่องเลยละกัน 

ซื้อส้มมาลูกนึง ที่มันส้มๆสีสวยๆอ่ะ แล้วก็เฉือนเปลือกมันตามขวาง เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. ไว้ซัก 2-3 ชิ้น 
ขูดเอาผิวมันออกมา ขูดออกมาทั้งลูกอ่ะ 
ส่วนผสมไซรัปก็ (เอาตามที่ใช้ก็แล้วกันนะ ส่วนถ้าใครจะทำเท่าไหร่ ก็แล้วแต่สะดวกเลย อัตราส่วนน้ำส้ม:น้ำตาล = 1:1 โดยปริมาตร ก็คือใช้ถ้วยตวงเอาอ่ะแหละ simple syrup ทั่วๆไป เปลี่ยนจากน้ำเปล่าเป็นน้ำส้มเฉยๆ)

แต่อันนี้จะเอาที่ตัวเองทำมาเป็นตัวอย่างให้ดู คือก็ตวงเอาแต่ว่าชั่งนน.ด้วย อย่างละ 1/4 ถ้วย + 2 ชช.
ที่ชั่งนน. เพราะอยากรู้ปริมาณน้ำตาลตอนชงเฉยๆ ไม่ได้จำเป็นอะไร แต่ถ้าใครอยากรู้ด้วย ก็ประมาณนี้
น้ำส้มชั่งนน.ได้ 57 กรัม ในน้ำส้ม 57 กรัม ก็จะมีน้ำตาลอยู่ 4.68 กรัม คิดจากค่าเฉลี่ยน้ำตาลในน้ำส้มที่ 100 กรัม จะมีน้ำตาลอยู่ 8 กรัม
น้ำตาลชั่งนน.ได้ 55 กรัม 
รวมในน้ำเชื่อม จะมีน้ำตาลอยู่ทั้งหมด 59.58 กรัม

ก็เอาไปใส่หม้อต้ม คนให้น้ำตาลละลาย จนมันเดือด ก็เอาน้ำเชื่อมมานั่งนน.ได้ 108 กรัม 
จริงๆก็ชั่งนน.ก่อนต้มไว้ได้ 117 กรัม แต่ตัวเลขนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก 
ถ้าอยากรู้ปริมาณน้ำตาลในน้ำเชื่อมว่าคิดเป็นกี่ % ก็เอา น้ำหนักน้ำตาลที่มีอยู่ทั้งหมด/น้ำหนักน้ำเชื่อม = 59.58/108 = 0.5516 ก็ประมาณ 55% w/w ทีนี้เราก็จะเอาเลขนี้มาคำนวณได้ว่าใน 1 แก้ว เรากินน้ำตาลไปกี่กรัม 

หน้าตาก็จะได้ประมาณนี้ อันนี้ทำไว้เมื่อคืน ตอนเช้าจะได้ทำไม่กี่อย่างพอ


แก้วใบนี้ 150 ml 
ใส่น้ำเชื่อมส้มไป 8 กรัม 
เติมน้ำแข็งไป 65 กรัม (จริงไม่ต้องชั่งนน.ก็ได้ ก็ใส่ไปให้เต็มแก้ว นน.ที่ได้จะประมาณ 1/2 ของปริมาตรแก้ว อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับรูปทรงของน้ำแข็งด้วย)
โซดา 40 กรัม 




กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าต้องถ่ายรูป 5555555

เอสเพรสโซ่ 30 กรัม (ใช้เมล็ดกาแฟ 8 กรัม) ที่อ่านว่าเมล็ดกาแฟต่อน้ำ = 1:18 อะไรซักอย่าง ไม่รู้ว่าแบบนี้เข้าใจถูกรึเปล่านะ แก้วใบนี้มัน 150 ml ถ้าคิดเป็นน้ำหนักน้ำก็ 150 กรัม เพราะความหนาแน่นของน้ำมันเท่ากับ 1 สมมติว่าปริมาตรน้ำทั้งหมดมัน 150 กรัม 1:18 ก็ควรต้องใช้เมล็ดกาแฟ 8 กรัม 
อ่านที่เค้าทำ cold brew สมมติเค้าทำ 1:9 เค้าก็เอามา dilute ให้ได้ 1:18 อยู่ดี แต่ก็ยังไม่เก็ทอยู่ดีว่าตกลง 18 เท่านี่ คือควรเป็นน้ำที่ใช้ชงออกมา หรือว่าน้ำทั้งหมดที่กาแฟละลายอยู่ เออ ชั่งมัน แต่ก็นั่นแหละ ที่บ้านมีเครื่อง minipresso ใช้กาแฟ 8 กรัม เติมน้ำไป 40 กรัม จะกดกาแฟออกมาได้ประมาณ 30 กรัมมั๊ง ก็เทใส่ลงไป เราทำกาแฟเอาไว้ก่อนนะ แล้วค่อยไปทำอย่างอื่น มันจะได้เย็นลงนิดนึง


หน้าตาก็จะได้ประมาณนี้ มันไม่แยกชั้นให้อ่ะ เทบนช้อนแล้วนะ สงสัยแก้วมันสั้นเกินไป


จริงๆมันก็ควรจะมีแต่ส้มอ่ะแหละ น้ำเชื่อมส้ม เปลือกส้ม ผิวส้มไรงี๊ แต่ระหว่างที่นั่งดูไปดูมา เห็นส้มแล้วนึกถึงอบเชย แบบในไวน์ร้อน อันนั้นมันก็หอม แล้วก็เข้ากันดีมากเลย เลยอยากเอามาลองใส่ดู แต่ก็มีนะ ที่เค้าต้มกาแฟใส่เครื่องเทศ แบบใส่ผงลงไป แต่ว่าเราไม่อยากได้ผง อยากใส่แค่ที่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่อยากได้กลิ่นไรมากมาย ไม่อยากให้มันข้นไปด้วย 

ส่วนรสชาติเหรอ ก็กาแฟใส่โซดา ไม่จืด ไม่ขม กำลังดี แล้วก็จะมีกลิ่นของเครื่องเทศ หอมๆนิดหน่อย ไม่แรงมาก แอบได้รสเผ็ดของกานพลูนิดนึง ส่วนส้มเหรอ เป็นแบบ a kiss of orange คือรู้ว่ามีส้มอยู่ แค่นั้น ไม่ได้โดดขึ้นมาแบบชั้นกำลังกินน้ำส้มอยู่ ถ้าใครชอบเครื่องเทศก็ อบเชย โป๊ยกั๊ก กานพลู ส่วนใครไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ค่ะ เห็นแบบนี้แล้ว แอปเปิ้ลก็แอบน่าสน ไว้คราวหน้าละกัน อบเชยแท่งๆนี่ได้ประโยชน์ 2 อย่างเลย เอาไว้ใช้คนน้ำเชื่อมข้างล่างด้วย หอมด้วย



นั่งกินๆไป พอก้นๆแล้ว ก็จะได้เคี้ยวเปลือกส้มด้วย เพิ่ม texture แต่ถ้าใครรู้ว่าตัวเองไม่ชอบ ตอนต้มน้ำเชื่อม ก็ใส่ไปปกติแหละ พอมันเดือดแล้วก็ทิ้งไว้ซัก 1/2 ชม. ค่อยมากรองออกไป

ก่อนจะไป เรื่องน้ำตาล นิดนึง น้ำเชื่อม 8 กรัม ที่เราใส่ลงไป ก็จะได้น้ำตาลประมาณ 4.4 กรัม ก็ประมาณน้ำตาลทราย 1 ชช.อ่ะแหละ ที่ทำแบบนี้เอาไว้คำนวณปริมาณน้ำตาลที่ตัวเองได้รับด้วย เอาไว้กะตอนใส่ครั้งแรกด้วย ว่าควรเริ่มเท่าไหร่ดี ใส่ไปเท่านี้ก่อน ถ้าไม่หวานค่อยเติมเพิ่มไรงี๊ อย่างเรา ถ้ากินเครื่องดื่มหวานๆ ก็จะใส่น้ำตาลประมาณ 1 ชช. ให้พอแค่หวานปะแล่มๆ ให้พอรู้สึกว่ามีรสหวาน 

อย่างที่เค้าแนะนำว่า ควรบริโภคน้ำตาลที่เพิ่มมาจากมื้ออาหาร (หมายถึงในเครื่องดื่ม เครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวงี๊) ไม่เกินวันละ 6 ชช. พออ่านใหม่ ผู้หญิงอ่ะ 6 ชช. ส่วนผู้ชายได้ 9 ชช. เลย โดยส่วนตัว จริงๆไม่ใช่คนที่ไม่ชอบกินหวาน ชอบกิน แต่น้ำตาลมันไปอะไรซักอย่างกับ glycation หน้าแก่อีก เบาหวานอีก เลยจะใช้ปริมาณที่ตัวเองควรกิน เป็นตัววัดว่าหวานเท่าไหร่ดี บางอย่าง 2 ชช. แล้วก็ยังไม่หวาน แต่ว่าพอแล้วก็ได้วะ 55555 ยกเว้นว่า ทั้งวันไม่กะกินน้ำหวานๆไรอีกแล้ว ก็ใส่ไปเลย 6 ชช. เราเผื่อไว้กินขนมด้วยไง เกิน ยังไงก็เกิน วันนี้แค่นี้แหละ ไปก่อนละ บ๊ายบาย


Comments