Chocolate Chunk Cookies
"Chocolate Chunk Cookies"
เอาจริงๆ ต้องบอกว่า ไม่ได้ชอบกินเลย ช็อคโกแลตชิพคุ้กกี้อะไรนี่ แต่ตั้งแต่หัดทำขนมใหม่ๆ ก็จะถามเพื่อนว่าอยากกินอะไร อยากหัดทำ เพื่อนก็จะบอกว่าคุ้กกี้ๆตลอด ส่วนตัวแล้วไม่ได้อินเลย คุ้กกี้ห่อละ 100+ อะไรนั้น ก็ไม่ใช่สไตล์ ชอบกินโอรีโอ้จุ่มนมสุด อร่อยสุด แค่นั้นก็ฟินละ ตอนนั่งพิมพ์นี่ก็กำลังนั่งกินโอรีโอ้รสเรดเวลเว็ทอยู่เลย กลิ่นมันหอมสู้ที่เป็นคุ้กกี้สีดำไม่ได้ อันนี้เหมือนโกโก้มันกลบกลิ่นแปลกๆไปหมด อันนี้ไม่มีผงโกโก้ไง กลิ่นแปลกๆมันเลยชัด อ่ะ เข้ามาเรื่องของตัวเองต่อ แล้วเรื่องนี้ก็มาถึงจุดเปลี่ยน เพราะว่า ไปนั่งร้านกาแฟบ่อย บอกชื่อได้มั๊ย บอกได้แหละมั๊ง สตาร์บัคส์ แล้วอยากกินขนม แต่ไม่ถึงกับอยากกินเค้ก เลยลองสั่งคุ้กกี้นี่มากินดู แบบว่า เฮ๊ย ชอบอ่ะ หวานดี มันนิ่มๆ บิกินง่าย แล้วก้ชิ้นบางๆ คือไม่เคยชอบช็อคโกแลตชิพคุ้กกี้ที่ตัวเองทำกินเลย มันหนาๆ ฟูๆ หน้าตาเหมือนเค้ก ดำๆ คือไม่น่ากินอ่ะ แต่คนอื่นเค้าก็กินกันได้นะ มีแต่อีคนทำนี่แหละ ที่ไม่ชอบกิน แล้วก็เพิ่งกลับมาทำขนมประมาณเดือนนึงได้มั๊ง ก็ทำเอแคลร์ ทำเค้ก ทำขนมไข่ พายแอปเปิ้ล อะไรแบบนี้ไป แบบว่าเออ ลองทำคุ้กกี้แบบที่ชอบกินดีกว่า มันคงมีสูตรบอกอยู่แหละ ก็ไปหาๆ ก็เจอ ส่วนผสมนี่ก็ดูมาจากของหลายๆคน เลยไม่รู้ว่าจะอ้างอิงของใครดี แต่ก็นี่แหละ ประมาณนี้ เพิ่งรู้ว่าของ original ที่ชอบกิน เค้าใช้แป้งโฮลวีต กินไปนี่แยกอะไรไม่ออกเลย รู้แค่มันมี texture ดี แล้วก็หนึบๆนิดนึง
ส่วนผสม
1. แป้งเอนกประสงค์ 90 กรัม
2. แป้งโฮลวีต 60 กรัม
3. เนย 112 กรัม
4. น้ำตาลแดง 1/2 ถ้วย + 2 ชต.
5 น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย + 2 ชต.
6. ไข่เบอร์ใหญ่ 1 ฟอง
7. ไข่แดง 1 ฟอง
8. baking soda 1/2 ช้อนชา
9. ช็อคโกแลตที่ชอบ 150 กรัม
วิธีทำ
ลงรูปไม่ได้ เป็นสากกระเบืออะไรไม่รู้
1. ก่อนเลย เราต้องมาทำ Brown butter ก่อนเลย จำไม่ได้หรอกว่า brown butter เค้าทำเพื่อให้ผลลัพธ์มันออกมาเป็นยังไง แบบผลลัพธ์ มันต่างกับเนยก้อนๆ หรือเนยละลายธรรมดายังไง แต่ก็นั่นแหละ เอาเป็นว่าใช้ brown butter ก็แล้วกัน วิธีทำก็คือเอาเนยลงไปละลายในหม้อ จนมันละลายอ่ะ แล้วก็รอให้มันเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แล้วก็พอ เอาขึ้นมาพักไว้ ส่วนใหญ่เค้าก็จะให้เทใส่ลงไปในถ้วยตวง(ที่เป็นกระเบื้องนะ) แล้วก็เติมน้ำเข้าไปให้มันได้ปริมาตรที่เราเอามาตั้งแต่แรก ก็คือ 1/2 ถ้วย แต่ว่าไม่ได้ทำอ่ะ กลัวมันเหลวไป ทำอะไรชอบเหลวไปทุกที ของเราก็เห็นมันสีน้ำตาลๆแล้วแหละ แต่รอให้กลิ่นมันเหมือนตอนทำคาราเมล ค่อยยกออก แล้วก็รอให้มันเย็นก่อน ระหว่างรอ ก็ไปเตรียมแป้งผสม baking soda เอาไว้
2. ใส่น้ำตาล ใส่ไข่ ลงไปผสมๆ คนให้เข้ากัน รอบนี้ให้คนชิมไปทั้งหมด 9 คน รวมตัวเองด้วย มีคนบอกว่าหวานไป 4 คน เอาจริงๆ เรายังไม่รู้สึกว่ามันหวานเท่าของ original เลยนะ แต่ก็นั่นแหลๆ ครึ่งๆเลย ถ้าใครไม่ชอบหวานมาก ไอ้ 2 ชช. ที่เป็นติ่งของทั้งน้ำตาลแดงกับน้ำตาลทรายธรรมดาก็ไม่ต้องใส่ก็ได้
3. ใส่แป้งไป คิดว่าที่เค้าไม่ใส่ผงฟู เพราะเค้าไม่ต้องการให้มันพองขึ้นข้างบน ให้มันแผ่ออกข้างๆอย่างเดียวพอ
4. ใส่ช็อคโกแลตที่เตรียมไว้ คลุกๆให้เข้ากัน ใครอยากใส่เยอะกว่านี้ก็ใส่ได้ อยากใส่เท่าไหร่ก็ใส่ไป แต่บางที เสน่ห์ของขนมมันหายไปเพราะตอนที่ทำเอง เราตะบี้ตะบันใส่ แบบ มีเท่าไหร่ ใส่เข้าไป ใส่เยอะๆ แต่บางที เยอะเกินไป ความน่ากินมันก็หมดไปแล้ว อันนี้ความคิดส่วนตัวนะ
5. ปิดฟิล์ม แล้วก็แช่เย็น จะแช่กี่ชม. ก็ได้ ให้เค้าคงตัวขึ้นอ่ะ แต่ของเรา แช่ไปเลยข้ามคืน เพราะทำตอนเย็นแล้วค่อยตื่นมาอบตอนเช้า
6. ใช้ที่ตักไอติม ถ้าเตาอบ 42 ลิตร ก็ได้ครั้งละ 6 ชิ้น แต่ถ้าใครมีความสามารถ จะวางให้มันอบได้มากกว่านี้ ก็ตามสบายเลย สูตรนี้ทำได้ทั้งหมด 12 ชิ้น ใช้ไฟ 175 องศาเซลเซียส อบประมาณ 12 นาที
อันนี้คือหน้าตาตอนอบเสร็จแล้ว มันก็จะเข้มๆตรงรอบๆนอก ส่วนตรงกลางก็จะพองๆหน่อย แล้วก็ยุบลง
ความบางที่ได้ก็ประมาณนี้ ที่ไม่มีช็อคโกแลตไปแยิ้มๆอยู่ข้างบนเลย น่าจะเป็นเพราะว่า ชิ้นมันใหญ่ไป เลยจมลงไปข้างล่างหมด แต่ก็ดีที่ไม่ลงไปอยู่ที่ตูด ไม่งั๊นคงติดกระดาษแย่
ผลลัพธ์ที่ได้ก็นิ่ม บิง่าย มี texture แต่บางคนก็บอกว่าน่าจะใช้ดาร์คช็อคโกแลต อันนี้มันหวานไป แต่ว่าเราใช้ milk เพราะชอบหวานๆ อยากให้หวานๆ นี่ยังไม่หวานสะใจเท่าไหร่เลย
ninja slot เกมสล็อต แบบเกมออนไลน์ที่มีผู้ล่นสนใจ และก็อยากได้เข้ามาสมัครเล่นเกมคาสิโนออนไลน์มากขึ้นวันแล้ววันเล่า ซึ่งหากคุณพอใจต้อง pg slot ของเราเท่านั้น มั่นคงปลอดภัย
ReplyDelete