ขอบ่น (แบบคนไม่มีความรู้)
ขอบ่น (แบบคนไม่มีความรู้)
อ่ะๆ คุยเรื่องอื่นบ้างดีกว่า จะมีเรื่องอะไรบ้างที่ผญสวยๆอย่างเรา (เหรอ) ให้ความสนใจ
ของกิน skin care ก็คงจะมีประมาณนี้ จะเล่ายังไงให้ไม่เหมือนคนอื่นดีวะ ฮ่าๆ เอางี๊ จะมีคนอ่านป่าว ถามแบบนี้ดีกว่า ก็ผญอ่ะ มันก็ต้องล้างหน้าทาครีมเป็นปกติ อ่านรีวิว ติดตามบล๊อคเกอร์ นู่นนี่นั่นๆ ก็คนทั่วๆไปอ่ะ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่เมื่อปลายปีที่แล้ว (ที่กลับมาสนใจหนังหน้าตัวเองใหม่) ก่อนหน้านี้เราก็ใช้ยูเซอรินอยู่ ทั้งเซ็ท แล้วมันก็ดี๊ดี ถูกกับหน้า แต่ราคาก็แอบแรงสำหรับนักศึกษาปริญญาโทปี 5 ที่อ. เลิกจ่ายเงินเดือน และผู้ปกครองลดค่าขนมเนื่องจากเห็นว่า ไม่มีแลปต้องไปทำแล้ว อ่ะ เราเป็นสิว คนเป็นสิวต้องใช้อะไร BHA ใช่มั๊ยคะ มันอยู่ในไขสันหลังไปแล้ว ไปดูราคาสิคะ โอ้โห ก็ไม่ถูกนะคะ ไปอ่านรีวิวเจอๆ มีที่เป็น AHA อยู่รวมกับ BHA ด้วย อันนั้นราคาแร๊ง เข้าไปอีกค่ะ ถ้ามันจะแพงขนาดนั้นแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อล่ะคะ?
ทำเองแล้วได้ถูกกว่ามั๊ยคะ?
ทำเองแล้วอยากใส่อะไรลงไปก็ได้ใช่มั๊ยคะ?
บางทีก็งงใจผู้ผลิต ทำไมต้องแยกเป็นอันนั้นอันนี้ ใส่รวมๆมาเลยไม่ได้เหรอ
อ่ะ สิ่งที่คิดว่าทำง่ายที่สุดไม่ต้องสนใจเถ้ารื่อง texture ก็น่าจะเป็นโทนเนอร์ จริงๆอยากเล่าเรื่องหนังสือที่เราอ่านเลย แต่เอานะ มันต้องสร้าง story จะได้ดูมี value เหอะๆ
สรุปเลยก็คือ เราซื้อ material มาทำ skin care ใช้เอง สั่งจาก myskinreci** ไม่ได้เป็นหน้าม้านะ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครทั้งนั้น เค้าก็จะมีบอกไว้เลย ว่าอันไหนเป็น moisturizing, whitening, antiaging เราก็เลือกจากอันนั้นแหละ ล๊อตแรกๆ เราก็ทำแบบนั้น (คำว่าล๊อตของเรานี่หมายถึงขวดเดียว ใช้เองคนเดียวนะ ไม่ได้แบบล๊อตนึง 50 กิโลกรัมอะไรแบบนั้น) แต่ไปๆมาๆ เราก็รู้สึกว่ามันเป็นกิเลสอีกอ่ะ แบบอ่านสรรพคุณ อันนั้นก็ดี อันนี้ก็โดน (จะบอกก่อนว่าแรกๆเราก็ตามบล๊อคเกอร์นู่นนี่นั่น แต่ตอนนี้เลิกตามไปหมดละ เพราะเห็นเค้ารีวิวแต่ของแพงๆ เห็นแล้วอิจสา ไม่มีเงินซื้อใช้ :P ตอนนี้ที่มีตามอยู่ก็เพจของเภสัช 2 คน) เราก็แบบเฮ๊ยไม่ได้ละ เราอ่านในเว็บที่เค้าขายของ ถ้าเลือกจากอันนี้ มันก็ไม่ต่างจากที่เราเชื่อคำโฆษณาแบบไม่ต้องคิด เค้าพูดมาว่าไง เราชื่อหมดเลย คือเราอ่านจากที่เค้าอยากให้เรารู้ ไม่ได้อ่านจากสิ่งที่เราไปหามาเอง มันก็ต่างกันนะ
อ่ะ เราก็เริ่มมาอ่านหนังสือพวก cosmetics dermatology อะไรแบบนี้ มีแนวนี้กี่เล่มโหลดมาให้หมด ตอนแรกที่เจอแบบรู้สึกเหมือนเจอขุมทรัพย์ อารมณ์เหมือนเจอสูตรขนมที่เป็น original เรายกตัวอย่างเรื่องสิวมาก่อนละกัน เอาแค่ความเข้าใจเรานะ ได้พวก โทนเนอร์ AHA BHA สำหรับคนเป็นสิวนี่ เข้าใจว่าอ่านไม่เจอนะ เป็นสิว ก็ใช้พวก antibiotics มันเรียกงี๊ใช่มั๊ย ไอ้ BP กับ Clinda 2 ตัวนี้ที่ดูพื้นฐานม๊ากมาก แล้วที่เค้าบอกให้ใช้คู่กัน เพราะถ้าใช้อยู่กันมีโอกาสเกิด antibiotics resistant ลดน้อยลง เค้าก็ให้เหตุผลไว้แค่นี้ AHA BHA ที่ส่วนใหญ่พูดถึงในแบบ facial wash มากกว่า
ประกอบกับเราไปกดสิวที่คลีนิค ไม่ได้หาหมอหรอกนะ อยากกดสิว ก็ไปกดสิวอย่างเดียว อยากจะทำทรีทเมนต์ แต่พนักงานหน้าเคาท์เตอร์ก็ให้คำตอบไม่ได้ แบบ หน้างี๊ทำอะไรดี พนักงานที่กดสิวก็บอก คราวหน้าก็ลองพบหมอสิ ให้หมอแนะนำให้ เราก็โอเค ลองดูก็ได้
พอเจอหมอ หมอก็ถามว่า มีปัญหาอะไร (หมอกวนตีนเหรอ) ไม่ใช่แบบนั้น ก็ประมาณว่ามีอะไรอยากปรึกษาแหละ เราก็แบบ เรามีแต่รอยแดงรอยดำจากสิว อยากให้มันหายอ่ะค่ะคุณหมอ บลาๆๆๆๆๆ หมอก็ถามว่า งั๊นรักษาสิวให้มันหายจะได้ไม่ต้องมีรอยดีกว่ามั๊ย 55555555 หมอก็ถามเว๊ย ว่า ตอนนี้เราใช้อะไรอยู่บ้าง เราก็บอกหมอไปด้วยความภาคภูมิใจ ว่าทำใช้เอง หมอก็แอบยิ้มมุมปาก โอ๊ยเขินหมอ แต่หมอผญนะ เค้าก็คงจะนึกตลกเราอยู่ในใจแหละ แล้วเราชอบตรงนี้ หมอก็จะให้ยาละลายสิวกับยาแต้มสิว หมอบอกว่า ก็ bp กับ clindamycin ปกติแหละ จะออกไปซื้อเองข้างนอกก็ได้นะ เฮ๊ย หมอ ทำไมหมอมึงพูดงี๊ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็ซื้อในคลีนิคไปก็ได้ จะถ่อออกไปหาซื้อข้างนอกทำไมเล่า มันก็เหมือนๆกันแหละ
อ่ะ เรามาคิดนะ หมอนี่แพทย์ผิวหนัง ให้ยารักษาสิวทั่วๆไป ตามที่อ่านในหนังสือ
แล้วเรามองหน้าฟีดส์ใน fb ทุกวันนี้ ผิวเป็นสิว ผิวติดสาร รักษาด้วยนู่นนี่นั่นๆ
มันเหมือนอะไร จะบอกว่าไงดี สมัยเราอยู่ป.ตรี เมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว ฮิตขายอะไรกันคะ เซ็ทหน้าขาว ทากลางคืน เช้าตื่นมาขาวทันใจเลย ที่มันจะมาพร้อมกับสบู่แครอท มีเพื่อนเราซื้อมาใช้อยู่เหมือนกัน ใช้แล้วหน้าใสขาวเนียน จะไปว่าเพื่อนเรามันก็ไม่ได้หรอก แม่งต้องด่าอีคนที่ทำออกมาขายนี่ พอเลิกใช้นะ สิวเต็มเลย มันก็ไปหาหมอ หมอบอกว่าผิวติดสเตียรอยด์ ช่วงนั้นคำนี้ก็ยังไม่ฮิตเหมือนช่วงนี้นะ เดี๋ยวนี้อะไรก็สเตียรอยด์ๆ เหอะๆ
มาช่วงนี้ขายอะไรคะ ขายครีมที่เอาไว้รักษาผลลัพธ์ที่เกิดจากครีมห่าเหวในยุคก่อนหน้านี้ เฮ๊ย ทำไมชีวิตเราต้องมาเจออะไรแบบนี้กันด้วย เหมือนแบบ โดนหลอกไม่รู้จักจบจักสิ้นซักที
แล้วไอ้พวกสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ปลอดภัยไม่แพ้ เฮ๊ย มันไม่จริงนะ บางคนยังแพ้ว่านห่างจระเข้เลย อ่ะ พูดถึงว่านหางจระเข้ ที่เป็นทั้งต้านอักเสบป่ะวะ infammatory something อ่านอังกฤษมา แปลเป็นไทยไม่แข็งแรง แล้วก็ยังเป็น whitening ด้วย ยับยังการสร้าง เมลามีน เอ๊ยไม่ใช่ เมลานิน อิอิ แล้วมันก็ขายกระปุกละ แพง แพ๊ง แพง แพง ใช้ burnova จบ ซื้อหลอดใหญ่มานี่ทาเบื่อเลย แล้วที่ขายกระปุกละแพงๆ ขอมองบนรัวๆ ได้มั๊ย ทำไมไม่รู้สึกความจริงใจคนขายที่แม่งมีต่อลูกค้าเลยวะ
แต่เดี๋ยวนี้เค้าเริ่มมี skin care แบบ customize แล้วนี่ แต่ก็นะ ราคาโหดอยู่ดี เห็นแล้วก็หดหู่ใจ หดหู่ที่ทำไมเราไม่มีเงินซื้อ 555555555555555 จนๆนี่ก็ดีนะ แบบ จะซื้ออะไร จะใช้อะไร ต้องคิดมากหน่อย ไม่มีเงิน แต่ก็ต้องมีเวลาไปศึกษาหาความรู้เอาเอง ความรู้ทุกวันนี้ มีเยอะนะ แล้วแต่ว่าเราจะเลือกสนใจเองรึเปล่า
คืออยากพูดเรื่องนี้มาก ไม่รู้จะคุยกับใคร มาบ่นในนี้ละกัน
อย่างเรื่อง website ที่ขายวัตถุดิบนี่ มีให้เลือกเยอะนะ ตั้งแต่แพงโอเวอร์ ดูไม่มีอะไรเลย แต่ก็ขายแพ๊งแพง นี่จะโดนฟ้องร้องมั๊ย เราไม่ได้พูดชื่อนะ บางอันก็โอเคนะ สำหรับซื้อมาทำเยอะๆ ซื้อแล้วมาหารกับเพื่อน บางอันก็ดี ขายน้อยๆ แบบพอดีทำ 50 กรัม 100 กรัม
ล่าสุดอารมณ์ไหนไม่รู้ ทำน้ำยีสต์หมัก ยีสต์สายพันธุ์ไหนคะ sacharomyces ceviceae พิมพ์ถูกป่าวไม่รู้ ขี้เกียจ serach หา ในกูเกิ้ล ยีสต์ขนมปังนี่แหละ ก็มีสายพันธุ์นี้ จะให้ไปใช้อันไหนวะคะ เลี้ยงมันด้วยน้ำข้าว น้ำซาวข้าวนี่แหละ ที่บ้านจะหุงข้าว ก็ไปขอเค้ามา ส่วนสูตรก็ลองไปหาดูใน pinterest แล้วกันนะ แต่สูตรที่เราใช้เหรอ ลืมอ่ะ 5555555 จะเลี้ยงพวก จุลินทรีย์ส่วนใหญ่มันก็ต้องคำนึงถึงพวก feed to innoculum ratio อัตราส่วนระหว่าง จุลินทรีย์กับอาหาร อย่างอาหารนี่ก็จะเทียบเป็น BOD, COD ปริมาณน้ำตาลไรงี๊ ถ้า ยีสต์นี่รู้สึกจะเป็น 1:10000 หรือ 1:1000 วะ (บอกแล้วว่าลืม) ยีสต์หมัก ก็เหมือนหมักไวน์ที่จะได้ ethanol แต่ pathway ที่ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น ethanol นี่มันก็จะได้ pyruvic acid ก่อน แล้วก็อี pyruvic acid นี่แหละ ที่มีประโยชน์กับผิวในเรื่อง เรื่อง เรื่อง อะไร ขออ่านก่อนแป๊บ คือมันก็จัดเป็น antioxidant, antimicrobial กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน กับ elastic fiber คืออะไรไม่รู้จัก แค่บอกว่ากระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หน้าเหี่ยวๆนี่ก็แฮปปี้ละ แต่เค้าไม่ได้บอก ความเข้มข้นเอาไว้นะ แต่ก็นั่นแหละ ถึงบอกไว้ ชั้นก็คงไม่มานั่งวัดความเข้มข้นของอีน้ำข้าวหมักที่ชั้นทำอยู่ดี retention time ที่จะเป็น alcohol ก็ประมาณ 3 วัน แต่ถ้าจะให้ยีสต์อยู่แค่ log phase (ป่ะวะ) ก็ประมาณ 18 ชม. ภาษาที่รู้กันก็จะ overnight เลี้ยง 4 โมงเย็น เก็บ 10 โมงเช้า เอาไปแช่เย็นให้มันหยุดการเจริญเติบโต แล้วก็เอาไปต้มที่ temperature 65 องศาเซลเซียส เพื่อหยุดการทำงานของ เอนไซม์ ชั้นก็ทำอย่างนี้แหละ (อะไรคือชั้นๆๆๆ ตอนแรกกูยังเราอยู่เลย) กลิ่นมันก็จะเน่าๆนิดนึง แต่ชินแล้ว เรียนสายนี้ เน่าแค่นี้คือว่าธรรมดามาก เจอ E.coli ข้ามปี เอาไปเข้า autoclave ทีนี่อ้วกจะแตก
เอาเรื่องอะไรอีกดีอ่ะ เจลล้างหน้าละกัน เจลล้างหน้าใส ขาว ลดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ จะบอกว่าไงดีอ่ะ เค้าก็คงจะใส่ไปจริงๆอ่ะแหละ ไอ้พวกสารสกัด ใส่มากใส่น้อยไม่รู้ แต่ไอ้ล้างหน้านี่ มันก็น่าจะแค่ทำความสะอาด ใส่ surfactant 2 ประเภท anionic กับ amphoteric ป่าววะ เจลล้างหน้านี่ก็ทำใช้เองนะ โคตรประหยัดเลย 100 ml นี่ตกไม่ถึง 20 บาทมั๊ง ใส่ surfactant ให้อ่อนโยน บอบบาง แค่ไหนก็ใส่เข้าไปเลย จะเติมโคตรอภิมหาอลังการล้านแปด ก็ไม่น่าเกิน 50 บาท
ขี้เกียจพิมพ์แล้วอ่ะ อยู่ดีๆก็ขี้เกียจ อยากทำอะไรเหรอ อยากหาเปเปอร์ อยากแปลมาให้อ่าน แต่จะมีคนอยากอ่านเหรอ แต่คนที่ให้ความรู้อะไรพวกนี้ก็มีเยอะแยะแล้วนะ คงจะแค่อยากแชร์มากกว่า แต่ไม่รู้จะไปคุยกับใคร คนอื่นชอบหาว่าเราบ้า
เออ นิดนึงพวกรอยแดงนี่ มันถือเป็น posthyperinfla คำว่าอะไรวะ แบบที่อักเสบแล้วมันทิ้งรอยอ่ะ ใช้ cryotherapy แบบให้มันเย็นๆ แล้วจะดีขึ้น แต่ก็ทำนานนะ 6 เดือน คลีนิคแถวบ้านก็มี ครั้งละ 120 บาท นี่ก็ถูกไปอีก วันนั้นคุยกับหมอเรื่องรอยแดง หมอก็บอกว่าจะทำทรีทเมนต์ cryo ก็ได้นะ เราก็แอบอมยิ้ม ว๊ายๆ เหมือนที่หนูอ่านในหนังสือมาเลย แสดงว่าหนูเข้าใจถูกละ ไม่หนูกับหมอก็อ่านหนังสือเล่มเดียวกัน ฮ่าๆ
ถ้าเข้าใจไม่ผิดอายุ 25+ แบบยังไม่ถึง 30 นี่จะไปในทาง collagen builder, collagen systhesis นะ ยังไม่ต้องมี peptide อะไร ก็ถ้าอ่านในหนังสือ นี่ก็จะแยกไปให้เลยว่า moisturizer มีกี่ประเภท แต่ละประเภท ทำหน้าที่ยังไง depigmenting agent แต่ละตัว mechanism เป็นยังไง antioxidant บลาๆ
แต่ตอนนี้มันยังไม่สุด คือตอนแรกก็เลือกซื้อมาใช้ ต่อมาเริ่มทำใช้ มันก็แค่นั้น เราก็ต้องซื้อวัตถุดิบมาทำอยู่ดี อยากจะทำวัตถุดิบได้บ้างจัง ไปดีกว่า เริ่มเพ้อเจ้อละ
เออ ตลกที่มีคนเข้ามาดูไอ้ DIY vitamin C AHA อะไรนั่น
ตอนนี้กลับรู้สึกว่า อยากให้คนเลือกสิ่งที่ตัวเองควรใช้มากกว่า ว่าตอนนี้ชั้นต้องใช้อะไร ตอนนี้อะไรจำเป็นกับหน้าชั้น บางทีดีสำหรับคนอื่น ก็อาจจะไม่ได้มีสำหรับเรา อย่าไปสนใจคนอื่นเลย เราหน้าตัวเองให้รอดก่อนดีกว่าเนอะ
Comments
Post a Comment