New York Cheesecake (นิวยอร์คชีสเค้ก) #1
"New York Cheesecake"
และแล้วก็ย้อนกลับมาเมนูนี้จนได้ จริงๆแล้วเป็นคนที่ชอบกินชีสเค้กมากๆเลยนะ แล้วพอเมื่อปีที่แล้ว กินตามร้านนั้นร้านนี้ แม่ง ทำไมได้แค่กลิ่นไข่ว่ะ เหม็นไข่ ไม่อร่อยเลย ที่ทำเองก็แอบเหม็นไข่ คือเลิกทำ เลิกกินไป พักนึงเลย มันเสียเซลฟ์มากเลยนะ แล้วพอเมื่อต้นเดือนไปกินอยู่ร้านนึง เฮ๊ย มันเหมือนเดิมอย่างที่ชอบกินเลยนี่หว่า หลังจากนั้นก็เลยกินชีสเค้กบ่อยมากๆเลย คือมันฟินอ่ะ บอกไม่ถูก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
และนี่คือสุดเริ่มต้นของเรื่องราวครั้งนี้ ไล่จากบนลงล่าง ซ้ายไปขวา
1. ไวท์ชอคกาแลตชีสเค้ก ที่ร้านบ้านต้นเค้ก ความประทับใจแรกเลยคือ มันไม่เหม็นไข่ และทำให้อยากกินชีสเค้กไปอีกเรื่อยๆ
2. บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก ร้านมั๊งคัพ หลังม. แทบอ้วก เฮ๊ย นี่มันคืออัลไล ทำไมไม่อร่อยเลยอ่ะ กินไม่หมดด้วย
3. บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก เดอะไทด์ อันนี้แอบรู้สึกว่ามีแป้งเยอะ ครีมก็ไม่ค่อยอร่อย แต่ก็ยังพอกินได้อยู่
4. เชอร์รี่ชีสเค้ก เดอะไทด์เหมือนกัน ไปวันเดียวกัน อันนี้ของน้องเทค พาสายเทคไปเลี้ยงเนื่องในโอกาสรับปริญญา ก็แบบ รสชาติเหมือนกับไอ้อันก่อนหน้านี้แหละ แค่ท็อปปิ้งไม่เหมือนกัน
5. ไวท์ชอคกาแลตชีสเค้ก ร้านหน้ามน หนมหวาน อันนี้ดีเลยนะ เผลอๆอร่อยกว่าของบ้านต้นเค้กอีก เพราะข้างบนใช้วิปครีม นิ่มๆ เนื้อเค้กก็แน่นดี เสียอย่างเดียว ชิ้นเล็กชิบหาย
6. ชอคกาแลตชีสเค้ก ลานเค้ก ตรงปั๊มน้ำมันตรงหนองมน อันนี้ก็อร่อยเลย ปลิ้มชอคกาแลตตรงข้างบนมาก
7. แมคคาเดเมียชีสเค้ก อันนี้เป็นร้านมาเปิดใหม่ อยู่ตรงหนองมน เห็นเค้าทำเองด้วย ไม่ได้รับมาจากที่ไหน เลยซื้อชิมก่อนกลับบ้าน ความรู้สึกเนื้อเค้กคล้ายๆที่เดอะไทด์นะ แต่ว่ารสชาติดีกว่า รวมๆทุกอย่างแล้วดีกว่าด้วย
พอแล้วเรื่องของคนอื่น ต่อไปมาเข้าเรื่องของเราบ้างดีกว่า อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ
ส่วนผสม
1. ไดเจสทีฟบิสกิต 100 กรัม
ถ้าใช้ยี่ห้อนี้ก็ประมาณ 7 ชิ้น เอาใส่โถปั่นโลด
เอาใส่ไปในเลยที่ละลายเอาไว้แล้ว
คลุกๆเคล้าให้เข้ากัน
เอาก้นแก้วกดๆ (คิดในใจกูใส่เนยเยอะไปป่าววะ ทำไมมันแฉะจุงเบย)
2. ครีมชีส 250 กรัม
3. น้ำตาล 1/4 ถ้วย
ตั้งครีมชีสทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง (คือซื้อมาเมื่อวาน แล้วก็ตั้งทิ้งเอาไว้ตั้งแต่กลับมาบ้าน จนกระทั้งทำเค้กสตรอเบอร์รี่เสร็จ นิ่มจนไม่รู้จะนิ่มยังไงเลย)
แล้วก็ตีใช้สปีดต่ำสุด ที่ฟังหลักการมาคือ ให้แค่มันคลายตัวเฉยๆ ไม่ได้ต้องการที่จะใส่อากาศเข้าไป เพราะต้องการให้ texture ที่ได้มันแน่นแบบนุ่มๆ
4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
5. ไข่แดง 1 ฟอง
เท่าที่อ่านเจอมาเค้าว่าสัดส่วนที่ดีที่สุดก็คือใช้ไข่ 1 ฟองต่อ ครีมชีส 1 ก้อน แต่ที่อ่านในวิกิ มันก็เขียนว่าไข่แดงด้วยนี่นา มันจะทำให้ rich ขึ้น ไหนนี่ก็สูตรอิชั้นเอง ทำเอง แดกเอง อยู่แล้วนิคะ อยากจะใส่อะไรก็ใสเข้าไปเลยตามใจ ตามสบาย
6. เฮฟวี่ครีม 2/3 ถ้วย
เท่าที่อ่านมาอีกเหมือนกัน เค้าจะใส่ซาวครีมเข้าไป 1-2 ส่วนของครีมชีส แล้วในวิกิ ก็จะเขียนว่าอีนิวยอร์คชีสเค้กเนี่ย ใช้ เฮฟวี่ครีม or ซาวครีม ดิชั้นก็เลยใช้เฮฟวี่ครีมเลยค่ะ เพราะมันมีเหลืออยู่ที่บ้าน กำลังจะหมดอายุ ซื้อซาวครีมไปทำไมให้เปลืองเงิน 55555555555555555
คนอื่นเค้าอบกัน 45 นาที ชม.นึง กูล่อซะ กลัวไม่สุก แต่ข้างบนนี่ แอบเปิดไฟบนไป 2 นาทีได้มั๊ง แม่ม ไหม้เบย
หลังจากแช่ตู้เย็นไว้หลายชม. ตั้งแต่ 3 ทุ่ม ยัน 7 โมงเช้า
แล้วก็ตัดมาชิ้นนึง กินตอนเช้า ทั้งๆที่ก็มุมเดียวกัน แล้วกูจะลงทำไมตั้งหลายรูป ไม่เข้าใจตัวเอง >//< คือมันถ่ายยากมากเลยนะ ไม่ค่อยโฟกัสให้เลย วันนี้ว่าง กินเค้กเสร็จก็มาส่งเมลล์ขอใบเสนอราคา นั่งอัพบล๊อค อาบน้ำไปเรียนตอนบ่าย อิอิ มีความสุข สบายจังเลยโว๊ยยยยยยยยย
คือขอพูดเรื่องเนื้อเค้กต่ออีกนิดนึง คือมันไม่แข็งนะ ไม่แบบเหนียวๆที่ต้องใช้ฟันขูดออกจากซ้อมอ่ะ มันนิ่มๆมันๆกำลังดีเลย (ยอตัวเอง) ทั้งๆที่ก็อบตั้งครึ่งชม.นะ เตรียมใจเอาไว้แล้วว่าต้องแข็งแน่นอน หน้าไม่แตกด้วย ก่อนเอาเข้าตู้เย็นก็ไม่ได้แซะออก แป้งก็ไม่ได้ใส่ ถือว่าประสบความสำเร็จ และพึงพอใจในระดับหนึ่ง หุหุ
Comments
Post a Comment